หมอแบงค์ได้สัญญาเอาไว้ในตอนที่แล้วว่าจะมาคุยกันเรื่องเบ่งคลอด แต่ทว่าคราวนี้หมอแบงค์คงต้องผิดสัญญาที่ให้ไว้กันน้องๆและท่านผู้อ่านเสียแล้ว ปกติหมอแบงค์ไม่ใช่คนที่จะผิดสัญญาง่ายๆนะ ลูกผู้ชายพูดคำไหนเป็นคำนั้น แต่พอดีเกิดเหตุการณ์ชวนให้อยากเล่ามากกว่ามาแทรกแซงเสียก่อน วันนี้หมอแบงค์เลยขอเปลี่ยน Topic จากเรื่อง “เบ่งคลอด” มาเป็นเรื่อง“Rape หรือ ข่มขืนกระทำชำเราแทน” เรื่องนี้ต้องย้อนไปสมัยหมอแบงค์มาปฏิบัติงานเป็นEXTERNที่โรงพยาบาลตำรวจ
>>>>อ่านเรื่องราวของนักศึกษาแพทย์ มศว ที่ รพ Click ที่นี่<<<<
โรงพยาบาลตำรวจนั้นมีเครือข่ายร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเหตุนั้นเองหน้าที่หลักอีกประการของแพทย์ที่ประจำอยู่ที่นี่คือการตรวจผู้ป่วยคดี ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท วัยรุ่นตีกัน ฆ่าชิงทรัพย์ แพทย์นั้นมีหน้าที่ตรวจและลงบันทึกบาดแผลตามความเป็นจริง รวมถึงบอกถึงสาเหตุการตายอย่างคร่าวๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อรูปคดีในชั้นศาล และมีผู้ป่วยคดีอยู่ประเภทหนึ่งที่จะถูกคัดแยกออกมาไว้ให้EXTERNสูตินรีเวชตรวจโดยเฉพาะ ผู้ป่วยคดีประเภทนั้นคือ “ผู้ป่วยคดีข่มขืนกระทำชำเรา”
วันนี้เป็นวันแรกที่EXTERNแบงค์อยู่เวรสูติCONSULT ที่โรงพยาบาลตำรวจ หน้าที่ของเวรสูติCONSULTคือหากมีที่ไหนในโรงพยาบาลมีCaseคนไข้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางสูตินรีเวชมา แพทย์คนที่อยู่เวรสูติCONSULTนี่แหละที่จะถูกตามมาตรวจเป็นคนแรก ร่วมถึงหากมีคนไข้ที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรามาเวรสูติCONSULTก็ต้องถูกตามมาตรวจเช่นกัน ระยะเวลาทำงานก็เหมือนเวรWARDอื่นคือ สี่โมงเย็นถึงแปดโมงเช้าอีกวัน
ปรากฏว่าประเดิมอยู่เวรวันแรก EXTERNแบงค์ขึ้นเวรยังไม่ทันไรก็โดนเพื่อนที่ห้องฉุกเฉินตามให้ไปตรวจ RAPE เสียแล้ว…ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนเวรเน่าทำให้แค่คืนนั้นแค่คืนเดียวตรวจ RAPE ไปจำนวนมาก หลังจากผ่านพ้นคืนยุ่งๆEXTERNแบงค์ก็ได้สัจธรรมขึ้นหลายประการเลยทีเดียว
สัจธรรมข้อแรก ปัจจุบันนี้สังคมไทยได้เสื่อมโทรมไปมาก บ้านเมืองของเรายามค่ำคืนไม่ปลอดภัยอีกต่อไป…แล้วแม้จะเป็นกรุงเทพมหานครเมืองหลวงแห่งสยามประเทศแห่งนี้ EXTERNแบงค์ไม่เคยนึกเคยฝันว่าในช่วงเวลาหนึ่งคืนในกรุงเทพจะมีคนถูกข่มขืนมากถึงขนาดนี้ ขณะที่EXTERNแบงค์ถูกตามมาให้ตรวจผู้ป่วยคดีข่มขืนกระทำชำเรา ตรวจยังไม่ทันเสร็จก็มีคนถูกRapeมานั่งรอให้ตรวจอีกสอง โอ้ย! แค่คืนเดียวมันจะโดนRapeกันทำไมมากมายกันขนาดนี้
สัจธรรมข้อสอง นอกจากสังคมที่เสื่อมโทรมลงจากการหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่ได้แล้ว ความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นอีกอย่างคือ “การชิงสุกก่อนห่าม” EXTERNแบงค์ได้พบกับความจริงที่ว่า ผู้ป่วยคดีที่มาให้ตรวจว่าถูกข่มขืนกระทำชำเราจริงหรือไม่ มากกว่าครึ่งของผู้มาตรวจจะเป็น “Rapeปลอม” คำแปลก็ตรงตัวคือ “ถูกข่มขืนปลอมๆ” โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นแฟนกันแล้วไปแอบมีเพศสัมพันธ์กันในที่ลับตา เช่น ห้องน้ำ บ้านแฟน โดยสมยอมกันทั้งสองฝ่าย แล้วสุดท้ายฝ่ายหญิงก็ถูกพ่อแม่จับได้ว่าชิงสุกก่อนห่าม พ่อแม่กลัวว่าฝ่ายชายจะไม่รับผิดชอบก็เลยเอาลูกมาแจ้งความ และมาตรวจโดยบอกว่าลูกถูกข่มขืน ทั้งๆที่จริงๆก็สมยอมกันทั้งสองฝ่าย คืนนั้นEXTERNแบงค์ตรวจRapeไป 5 Case ปรากฏว่าเป็น Rapeจริงแค่ Case เดียวเท่านั้น ที่เหลือคือสมยอม แถมผู้หญิงแต่ละคนที่มานี่อายุก็ไม่ได้มากเลย มีกระทั้งเด็กอายุสิบสองก็ไปมีSEXกับแฟนอายุสิบเจ็ดเสียแล้ว แถมตอนเดินมาให้EXTERNแบงค์ตรวจ ยังใส่ชุดนักเรียนมาอีกต่างหาก ดูความเสื่อมของสังคมไทยที่เกิดขึ้นสิครับ
แต่ไม่ว่าที่มาจะเป็น Rapeจริงหรือปลอม EXTERNแบงค์ก็ต้องตรวจทั้งหมดไม่มีสิทธิเกี่ยงโดยEXTERNแบงค์จะต้องซักประวัติให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ และตรวจร่างกาย หาร่องรอยกระทำชำเรา ซึ่งหลักๆก็ดูที่เยื่อพรหมจรรย์(Hymen) ซึ่งเดี๋ยวEXTERNแบงค์จะสอนหลักการดูคร่าวๆให้ภายหลัง
ในส่วนการซักประวัติ EXTERNแบงค์จะต้องซักให้ได้ว่า
เหตุการณ์กระทำชำเรานั้นเกิด ณ วันเวลาสถานที่ ไหน
คนลงมือเป็นใคร ร่วมเพศกันกี่ครั้ง มีการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปทางปาก ช่องคลอด
หรือทางทวารหนักหรือไม่ หลั่งข้างในหรือหลั่งข้างนอก สวมถุงยางด้วยหรือเปล่า
โห้ถามตรงๆแบบนี้ใครจะบอกกันครับ
ต้องใช้เทคนิคและวาทศิลป์มากนะในการซักประวัติคนโดน Rape มา มีตัวอย่างมาให้ดูครับ เอาเด็กนักเรียนอายุสิบสองคนนั้นแล้วกัน
สมมติว่าชื่อน้องแซนดี้
EXTERNแบงค์: “น้องแซนดี้ครับวันนี้มาโรงพยาบาลด้วยเรื่องถูกกระทำชำเรา…ใช่ไหมครับ”
น้องแซนดี้: “กระทำชำเราคืออะไรเหรอค่ะ หนูไม่เข้าใจค่ะ (เหอๆ ทำตัวinnocentเสียด้วย)”
EXTERNแบงค์เลยต้องเปลี่ยนวิธีพูดใหม่
EXTERNแบงค์: “น้องแซนดี้
วันนี้มีปัญหาอะไรถึงมาโรงพยาบาลครับ”
น้องแซนดี้: “ก็…ไม่มีปัญหาอะไรนิ ไม่รู้คุณแม่ให้มาโรงพยาบาลทำไม”
EXTERNแบงค์: “เห็นคุณแม่น้องบอกพี่ว่า
น้องไปที่บ้านแฟนมาเหรอ”
น้องแซนดี้: “ใช่ไปบ้านแฟนมาแล้วไงล่ะ”
EXTERNแบงค์: “แล้วตอนไปบ้านแฟนมีใครอยู่บ้านบ้างครับ”
น้องแซนดี้: “ก็อยู่กับ…แฟนกันสองคน”
EXTERNแบงค์: “อ้าว…แล้วไปอยู่ที่ไหนในบ้านกันล่ะ”
น้องแซนดี้: “ก็ห้องนอนของแฟน…”
EXTERNแบงค์: “แล้วทำอะไรกันในห้องนอนแฟนล่ะ”
น้องแซนดี้: “เปล่านิไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย”
ท่าทางจะไม่ work สงสัยว่า EXTERNแบงค์ต้องพลิกแพลงคำถามใหม่เสียแล้ว
EXTERNแบงค์: “แล้วอยู่ในห้องแฟน
แฟนเขาถอดเสื้อ ถอดกางเกงอยู่หรือเปล่า”
น้องแซนดี้: “ถอด…”น้องแซนดี้ตอบอย่างเสียขวัญ
EXTERNแบงค์: “แล้วน้องแซนดี้ล่ะครับ
ถอดเสื้อผ้าเหมือนกับแฟนน้องหรือเปล่า”
น้องแซนดี้: “ถอดเหมือนกัน…ค่ะ”
EXTERNแบงค์: “แล้วเขากอดน้องไหมครับ”
น้องแซนดี้: “กอดด้วยค่ะ”
EXTERNแบงค์: “นอกจากกอดแล้ว
แฟนของน้องเขาทำอะไรอย่างอื่นอีกไหมครับ”
น้องแซนดี้: “ทำค่ะ…”
เอาหล่ะคงพอหอมปากหอมคอนะครับ ก็อยากเล่าต่อนะครับแต่เดี๋ยวบทความของEXTERNแบงค์จะถูกแบนเสียก่อน นอกจากซักประวัติที่กล่าวไปข้างต้น
สิ่งที่แพทย์ต้องวิเคราะห์ให้ได้อีกประการคือ Case นั้นเป็น
Rape จริงหรือปลอม EXTERNแบงค์มีวิธีการดูง่ายๆมาฝาก
1.Rape จริงนั้นมักจะมีร่องรอย บาดแผลการต่อสู้ถูกทำร้ายตามร่างกายของผู้เสียหาย
เยื่อพรหมจรรย์(Hymen)
1.Rape จริงนั้นมักจะมีร่องรอย บาดแผลการต่อสู้ถูกทำร้ายตามร่างกายของผู้เสียหาย
2. Set
คำถาม อันนี้คิดเองนะ
“เขามีใช้กำลัง ทำร้ายน้องหรือไม่”
“เขาขมขู่น้อง หรือมีใช้อาวุธหรือไม่”
“น้องมีต่อสู้ ขัดขืนเขาหรือไม่”
หากคำตอบเป็น “ไม่ค่ะ เขาไม่ได้ใช้กำลัง ไม่ได้ใช้อาวุธ
ไม่ได้ทำร้ายหรือข่มขู่หนูเลย และหนูก็ไม่ได้ต่อสู้หรือขัดขืนเขาด้วยค่ะ”
แบบนี้ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าการกระทำชำเราครั้งนี้น่าจะเป็นการสมยอม
แบบนี้ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าการกระทำชำเราครั้งนี้น่าจะเป็นการสมยอม
ก่อนจะพูดถึงส่วนของการตรวจร่างกายน้องต้องรู้จักเยื่อพรหมจรรย์
หรือ hymen เสียก่อน
เยื่อพรหมจรรย์
หรือเยื่อพรหมจารี (Hymen) เป็นแผ่นเยื่อบาง ๆ
อยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้หญิง จะอยู่ลึกเข้าไปประมาณไม่เกินปลายนิ้วมือ
ขนาดและลักษณะแตกต่างกัน เป็นขอบของเนื้อเยื่อที่มีลักษณะคล้ายวงแหวน
อยู่ถัดจากปากช่องคลอดเข้าไปราว 1 ซม.
ความหนาบางก็แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนก็หนา บางคนก็บาง และสามารถฉีกขาดได้ง่ายจากหลากหลายสาเหตุ
เช่น เล่นกีฬา, ทำงานหนัก, หกล้ม,
เกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งการร่วมในครั้งแรก ๆ ฯลฯ
ในปัจจุบันผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ไม่จำเป็นว่าเยื่อพรหมจารีจะยังคงอยู่จนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจึงจะขาด
แต่เยื่อพรหมจารีอาจ ขาดได้จากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง ได้แก่ จากการเล่นกีฬา
โดยเฉพาะกีฬาโลดโผนหรือผาดโผน เช่น ขี่ม้า, ยิมนาสติก,
กระโดดสูง เป็นต้น หรืออาจขาดจากการเกิดอุบัติเหตุ
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นครับ
ในผู้หญิงปกติที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
เยื่อพรหมจรรย์จะต้องครบวงกลมสวยงาม ไม่มีรอยแฉก ไม่ขรุขระ
ซึ่งในการตรวจร่างกายหากผู้ป่วยมีรอยขาด
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าน่าจะเคยมีเพศสัมพันธ์
และหากรอยขาดนั้นมีเลือดออกแสดงว่าเป็นรอยขาดใหม่ บอกได้แค่ว่าผู้ป่วยอาจเพึ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์มา(ไม่ได้บอกว่าถูกข่มขืนนะ
เพราะ ต้องดูประกอบกันหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นประวัติ รอยถูกทำร้าย ผลตรวจน้ำอสุจิ)
รูปซ้ายสุดคือเยื่อพรหมจรรย์ที่ครบวง
รูปสุดท้ายอันนี้นี่ขาดหมดแล้ว
จบแล้วนะครับ ถ้าอยากรู้ละเอียดกว่านี้ลองมาเรียนหมอดูเองแล้วกันนะ c(^_^) คราวหน้าEXTERNแบงค์จะมาพูดเรื่องเบ่งคลอด ตามสัญญาตอนแรกนะครับ
จบแล้วนะครับ ถ้าอยากรู้ละเอียดกว่านี้ลองมาเรียนหมอดูเองแล้วกันนะ c(^_^) คราวหน้าEXTERNแบงค์จะมาพูดเรื่องเบ่งคลอด ตามสัญญาตอนแรกนะครับ
เรื่องโดย ~หมูสนาม~
คำเตือน
บทความนี้ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์แล้วหากผู้ใดคัดลอกโดยไม่อ้างอิงที่มา จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ทางปัญญา