คำเตือน!!
โปรดระวังขณะนี้มีโรคระบาดร้ายแรงเกิดขึ้น โรคนี้ติดต่อที่ติดต่อกันได้ง่ายมาก
และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว กลไกการติดต่อนั้นง่ายมากครับ โรคนี้ติดต่อโดยการใช้ประสาทสัมผัสสามอย่างคือ
ตาดู หูฟัง ปากเล่า ซึ่งไม่แน่ว่าท่านผู้อ่านหลายๆอาจติดโรคนี้อยู่ก็เป็นได้
โรคนี้เรียกว่า “ละครไทยAddit” “โรคติดละครไทย”
ท่านผู้อ่านอาจจะส่งสัยว่าคณะแพทย์ศาสตร์
มศว ไปเกี่ยวข้องอะไรกับโรคนี้ เป็นสถานที่บำบัดผู้ติดละครเหรอ เอ๋ก็ไม่น่าใช่ คำตอบคือ
คณะแพทย์ศาสตร์ มศว เป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของโรคเลย
คือเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง “มุกเหลี่ยมเพชร”
ใครยังไม่รู้จักคณะแพทย์ มศว คลิ้กที่นี่ครับ >>>มารู้จักคณะแพทย์ มศว กันครับ<<<
กำกับการแสดงโดย : นพพล
โกมารชุน
ผลิตโดย : บริษัท
เป่าจินจง จำกัด
ออกอากาศทุกวันพุธ -
พฤหัสบดี เวลา 20.25 น.
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เรื่องย่อ
พัชระ หรือเพชร โสภณพันธ์(โฬม พัชฏะ)
นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของบริษัท สตาร์ไดมอนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบการค้า
อัญมณีอันดับหนึ่งของเมืองไทยกำลังชื่นชม อะดอเรลลา สร้อยเพชรสีชมพู
ซึ่งร่ำลือกันว่าเป็นสร้อยอาถรรพ์เพื่อนสนิทของเขาทั้งสามคนคือ เจนจบ (เจสัน ยัง) ฝ่ายการตลาดของบริษัทรักษาความปลอดภัย
พาที ( โพลาร์ อิศวร์)
เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยและ ชนินทร (เอ พศิน) ผู้จัดการบริษัทรวมอยู่ในห้องด้วย
เจนจบ (เจสัน
ยัง) เป็นหนุ่มหล่อสะอาดสะอ้าน
หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตรงกันข้ามกับชนินทร (เอ พศิน) ที่เคร่งขรึมพูดน้อย
ส่วนพาที ( โพลาร์ อิศวร์) เป็นหนุ่มอารมณ์ดีที่สุดในกลุ่ม ทั้งสามหันไปมองเพชร(โฬม
พัชฏะ)ที่บอกว่าไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์ของสร้อย เขาคิดว่าเรื่องราวที่เล่าลือกันมันเป็นความบังเอิญมากกว่า
ขณะเพชรกำลังจัดวางเครื่องประดับในตู้ใหม่
เจนจบเล่าเรื่องอาถรรพ์ของสร้อยอะดอเรลลาให้ทุกคนฟัง เพชรเบรกให้เพื่อนหยุด
แต่คืนนั้นเองอะดอเรลลาก็ถูกปล้นไปจากตู้โชว์ในบริษัทด้วยฝีมือของภูผา
( หนึ่ง ชลัฏ) หัวหน้าแก๊งโจร มีเนส เป็นแฮกเกอร์มือหนึ่ง กับบลู (ชาช่า มนสิชา)
สาวสวยแต่ใจแกร่งไม่แพ้ชายและพวกอีกสองคนคือขุนพล (โจ วัทนพร )
เพลย์บอยนักขับรถแข่ง กับแมงมุม ( นัน สุนันทา) สาวทอมวัยรุ่น
ทุกคนสวมหน้ากากยางเข้าฉกสร้อยไปได้
โดยพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ขัดขวางถูกยิงตายหมด และมุกดา(ซูซี่ สุษิรา)
ตำรวจสากลที่มาทดสอบระบบความปลอดภัยไม่สามารถป้องกันสร้อยไว้ได้เพราะขุนพลกับแมงมุมยิงสกัดเธอจึงต้องหลบ
มุกดา
(ซูซี่ สุษิรา) วิ่งมาเจอคมกฤช (ต๊ะ วริษฐ์) พี่ชายซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทประกันภัย
คมกฤชไม่อยากให้ใครเห็นมุกดาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็บอกให้มุกดาหลบไปแต่เธอไม่ยอม
คมกฤชจึงลากตัวมุกดาออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันบนดาดฟ้า เนสกับบลู
(ชาช่า มนสิชา) เอาเลือดชโลมตัว ฉีกเสื้อให้ขาดวิ่นเหมือนกับได้รับบาดเจ็บเฮลิคอปเตอร์ของนักข่าวสกายรีพอร์ตเห็นก็ร่อนลงไปเพื่อช่วยเหลือ
บลูกับแมงมุม ( นัน สุนันทา) และขุนพล (โจ วัทนพร )
ชักปืนจ่อบังคับทั้งนักข่าวช่างภาพและนักบินให้อยู่ในความสงบแล้วจับมัด
จากนั้นแก๊งโจรภูผา ( หนึ่ง ชลัฏ) ก็ขึ้นเครื่องหนี ตำรวจจากการนำกำลังของสารวัตรธีรพัฒน์ (เบียร์ ศิววัชร์) วิ่งขึ้นมาระดมยิงเนสซึ่งขึ้นเครื่องบินหลังสุดตาย
เพชร(โฬม
พัชฏะ)รู้ข่าวรีบเดินทางมาทันที
เขามองแท่นสร้อยที่ว่างเปล่าแล้วหันไปต่อว่าสารวัตรธีรพัฒน์ (เบียร์ ศิววัชร์) กับพาที ( โพลาร์ อิศวร์) พาทีค่อยๆถอยห่างจากเพชรที่กำลังโมโหไปสองก้าวเจนจบ
(เจสัน ยัง) บอกให้ใจเย็นๆก็ถูกตวาดอีกคนหนึ่ง และเพชรก็มาที่บริษัทประกันซึ่งคมกฤช
(ต๊ะ วริษฐ์) ก้าวเข้ามาในห้องที่บรรยากาศกำลังตึงเครียดเมื่อได้พูดคุยกับเพชร
ซึ่งเพชรให้เวลาคมกฤชตามหาอะดอเรลล่าเป็นเวลาสองอาทิตย์ไม่เช่นนั้นจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดมูลค่าเป็นพันล้าน
และเพชรยังประกาศต่อหน้าทุกคนอีกว่าถ้าใครตามหาอะดอเรลลาเจอและนำมาคืนได้จะมอบเงินให้ห้าล้านบาทเลยทีเดียว
รุจา
(วิกกี้ สุนิสา) นักข่าวสาวไฟแรงจากหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์จะเข้าพบสารวัตรธีรพัฒน์ (เบียร์
ศิววัชร์) เพื่อถามความคืบหน้าของคดีปล้นสร้อย
จ่าถนอมตำรวจหน้าห้องกันไว้แต่พอเห็นคมกฤช (ต๊ะ วริษฐ์) เปิดประตูเดินออกจากห้องเธอคิดว่าเป็นสารวัตรจึงวิ่งตามไปและยิงคำถามมากมายตามที่เธอจดมาโดยหารู้ไม่ว่าไม่ใช่สารวัตรธีรพัฒน์และเมื่อจากไปคมกฤชก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างแต่อย่างใด
มุกดา(ซูซี่
สุษิรา)อยู่ในห้องส่วนตัวของเธอคุยกับเจอรี่หัวหน้าตำรวจสากลผ่านวิดิโอแชตในแม็คบุ๊ก
เจอรี่เตือนว่าใกล้ครบกำหนดลาพักร้อนแล้วเตรียมตัวเดินทางกลับ
แต่มุกดาขออนุญาตอยู่ต่อและสอบถามเรื่องเครื่องประดับเก่าแก่
อะดอเรลล่าแต่ยังไม่ทันได้คำตอบเพราะประไพ (ปอ ปานเลขา)
แม่ของเธอเปิดประตูเข้ามาถามกำลังทำอะไร
เธอรีบยืนขึ้นบังหน้าจอแล้วอ้างว่าดูเว็บแฟชั่นอยู่
ประไพมองอย่างไม่ค่อยชอบใจคิดว่าลูกสาวไปเรียนเกี่ยวกับแฟชั่นและไม่รู้ว่าลูกสาวไปเป็นตำรวจสากลด้วย
ซึ่งประไพก็ขอให้เธอเลิกเรียนมุกดารับปากทำให้ประไพสบายใจขึ้นแต่เรื่องที่เธอไม่ยอมประไพนั้นก็คือเรื่องที่ประไพจะจับคู่แต่งงานให้เธอนั้นเอง
ในขณะที่เพชร
(โฬม พัชฏะ) ก็ปฎิเสธไม่ยอมรับที่มรกต (ฮันนี่ ภัสสร ) ผู้เป็นมารดาจะพาไปดูตัวหญิงสาวว่าที่สะใภ้ซึ่งเมื่อเพชรไม่ยอมไปดูตัวมรกตก็ประท้วงด้วยการอดข้าวพร้อมทั้งบังคับให้เผ่าพงศ์
(ยอดมนู ภมรมนตรี ) ผู้เป็นสามีอดข้าวด้วย เพชรเซ็งจัดกับวิธีการของผู้เป็นแม่
จึงจำยอมให้มรกตพาไปที่ห้องอาหารหรูวันรุ่งขึ้น
เขาบ่นอุบอิบที่ต้องเสียเวลานั่งรอผู้หญิงและยิ่งเห็นประไพ (ปอ ปานเลขา) พามุกดา
(ซูซี่ สุษิรา) เข้ามาเขาก็ไม่ชอบตั้งแต่วินาทีแรก
เพราะมุกดาเองก็ไม่เต็มใจที่จะมาพบเขาจึงแกล้งดัดจริตเข้าใส่ทั้งการพูดจาและกิริยาท่าทางเพื่อให้เขาชิงชังรังเกียจ
ตอนกินก็แกล้งทำมูมมาม แต่สองแม่กลับเห็นว่าเธอเป็นธรรมชาติน่ารักจริงๆ
และเมื่อกลับไปยังที่ทำงานของตนทั้งเพชรและมุกดาต่างบ่งบอกว่าขอสาปส่งอีกฝ่ายไม่ขอพบเจออีกเลยชาตินี้
เพชร
(โฬม พัชฏะ) ขอให้เพื่อนทั้งสามคนช่วยกันคิดหาวิธีที่จะดีดมุกดา(ซูซี่
สุษิรา)ให้กระเด็นไปไกลๆ จากชีวิตเขา
แต่พวกเพื่อนก็ยังคิดไม่ออกเขาจึงต้องไปพบกับมุกดาซึ่งมรกต (ฮันนี่ ภัสสร ) จัดฉากนัดพบให้อีก
มุกดาพบหน้าเพชรก็กรี๊ดเข้าใส่ ยกป้ายไฟเขียนรูปหัวใจว่า มุกรักพี่เพชร
คนที่เดินห้างฯหันมามองเป็นเป้าสายตาเดียวกันทำให้เพชรอายมากชวนเธอเข้าร้านอาหารเพื่อจะได้รีบกินรีบกลับ
ขณะที่เดินเข้าร้านอาหารมุกดาเห็นบลู (ชาช่า มนสิชา)
สาวสวยเซ็กซี่แวบหนึ่งก็จำได้ว่าเป็นคนร้ายที่ต่อสู้กันคืนนั้น
จึงตามบลูเข้าไปในห้องน้ำโดยอ้างกับเพชรว่าปวดท้องกะทันหัน
บลูก็รู้ตัวเปิดฉากต่อสู้กันทันที มุกดาจับบลูกดอ่างน้ำถามอะดอเรลลาอยู่ที่ไหน
บลูไม่ตอบฮึดสู้พลิกตัวจับมุกดากดน้ำบ้างและถามอยู่แก๊งไหนมุกดาไม่ตอบต่างต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เพชรยืนรออยู่เห็นมุกดาหายไปในห้องน้ำนานนักก็เข้าไปดูโดยมียามรักษาความปลอดภัยเข้าไปด้วยคนหนึ่ง
ภาพที่เห็นคือหญิงสาวสองคนเสื้อผ้าเปียกปอน
ที่โรงพยาบาลในห้องพักฟื้นของเจนจบ(เจสัน ยัง) เพชร(โฬม
พัชฏะ)ซักไซ้จะเอาความจริงจากมุกดา(ซูซี่
สุษิรา)ว่าเคยไปมีเรื่องกับใครที่ไหนถึงได้ถูกไล่ยิง
มุกดาแต่งเรื่องหลอกว่าเธอแย่งแฟนของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นจึงเข้าใจผิด
แต่เพชรก็ไม่ได้เชื่อตามที่มุกดาพูดแต่ก็ไม่อยากพูดไรมากจึงยอมจบเรื่องแต่เพียงเท่านั้น
รุจา(วิกกี้
สุนิสา) ไม่ละความพยายามที่จะเจาะข่าวการปล้นสร้อยเพชรอะดอเรลลาจากสารวัตรธีรพัฒน์
(เบียร์ ศิววัชร์) แต่ความเฟอะฟะของเธอจ่าถนอมกันเอาไว้ไม่ได้พบธีรพัฒน์สักที
และเธอก็ยังคิดว่าคมกฤช (ต๊ะ วริษฐ์) คือธีรพัฒน์อยู่นั้นแหละ
พอเจอคมกฤชขับรถเธอก็ขับไล่ตาม ในที่สุดก็ชนท้ายเข้าอย่างจัง
คมกฤชเปิดประตูลงมาอย่างโมโห รุจารีบคว้าโทรศัพท์มาลนลานกดเรียกประกัน
เขาเดินมาเคาะกระจกให้เธอลงมาพูดกัน
เธอเปิดประตูกระแทกเขาแล้วลงมาจ่อเครื่องอัดเทปถามเรื่องความคืบหน้าคดี
คมกฤชรู้แล้วว่ารุจาเข้าใจผิดว่าเขาเป็นสารวัตรธีรพัฒน์จึงแต่งเรื่องเล่าไปเรื่อยเปื่อยให้รุจาฟัง
เธอก็เอาไปเขียนเป็นข่าวอย่างจริงจัง
สมพลบรรณาธิการข่าวกับบรรบตเจ้าของหนังสือพิมพ์บิดาของรุจาเองไม่อยากเชื่อข่าวนั้น
คมกฤชเห็นข่าวแล้วหัวเราะขำแต่แล้วเขาก็ถูกสารวัตรธีรพัฒน์โทรศัพท์มาโวยวายและรุจาเองก็โดนต่อว่าทำให้เธอโกรธคมกฤชมากและสัญญาว่าจะต้องเอาคืนให้ได้
มุกดา(ซูซี่
สุษิรา) ไปเริ่มทำงานเป็นเลขาหน้าห้องของเพชร (โฬม พัชฏะ)
เขาขัดคำสั่งของมารดาไม่ได้จำต้องสั่งจัดโต๊ะทำงานให้นั่งคู่กับสาลินี (หนิง
ปณิตา) เลขาคนเดิมของเขา ซึ่งไม่ถูกชะตากับมุกดาตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียวและเมื่อมรกต
(ฮันนี่ ภัสสร ) มาเห็นก็สั่งให้ย้ายโต๊ะของมุกดาเข้าไปตั้งในห้องของเพชร
ยิ่งทำให้สาลินีไม่พอใจมากขึ้นอีก
เพชร
(โฬม พัชฏะ)
รู้เรื่องแผ่นดีวีดีรักษาความปลอดภัยหายไปและไปอยู่ในตัวเนสคนร้ายที่ตายไปจากการโทรมาบอกของสารวัตรธีรพัฒน์
(เบียร์ ศิววัชร์) ดังนั้นเขาจึงเรียกเจนจบ (เจสัน ยัง) และชนินทร(เอ พศิน) ประชุมทันที
แต่ชนินทรกำลังจะกลับไปที่ห้องและเห็นมุกดา (ซูซี่ สุษิรา) มารื้อค้นห้อง
เขาก็ลากเธอไปหาเพชรทันที แต่เพชรกลับไม่สนใจ
เขาต้องการพูดเรื่องอะดอเรลลาที่ถูกขโมยไปเพราะคิดว่าเป็นคนใกล้ตัวที่ส่งแผ่นดีวิดีให้โจร
และได้ความว่าชนินทรนำแผ่นกลับไปเก็บที่บ้านทำให้เพชรโกรธมากถึงขนาดทะเลาะกับเพื่อนเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว
ชนินทร(เอ
พศิน) กลับถึงบ้านก็พาลตบหน้านิจนันท์ (มะปราง วิรากานต์)
เมียของเขาในข้อหาที่เธอโทรศัพท์ไปรบกวนในเวลาทำงานและเมื่อรู้ว่าเพชร (โฬม พัชฏะ)
มีเรื่อง นิจนันท์ถามอย่างอยากรู้เพราะเธอเคยแอบรักเพชรนั้นเอง
จึงยังมีความห่วงใยเขาอยู่
ชนินทรไม่พอใจเหวี่ยงร่างนิจนันท์ไปกระแทกโต๊ะชนินทรเอื้อมือจะตบอีก
แต่นิจนันท์ฮึดสู้ตบผัวะเข้าใบหน้าเขาก่อนแล้วคว้าแจกันมาเป็นอาวุธและขู่เรื่องที่ชนินทรแอบขโมยเพชรมาขาย
ชนินทรโดนเมียขู่จะเปิดโปงอย่างนั้นก็เถียงไม่ออก
จากที่แข็งกร้าวกลายเป็นเจื่อนจ๋อยตรงกันข้ามกับนิจนันท์ที่พลิกสถานการณ์มาเป็นจอมบงการแววตาร้ายกาจแทน
นิจนันท์
(มะปราง วิรากานต์) ไปทำแผลที่หัวเข่าบาดเจ็บจากการถูกชนินทร (เอ พศิน) เหวี่ยงล้ม
เธอเดินกะเผลกไปที่ห้องจ่ายเงิน ถูกญาติคนไข้เข็นรถมาชนโดยไม่ตั้งใจ มุกดา (ซูซี่
สุษิรา) พาประไพ (ปอ ปานเลขา) มาหาหมอ เห็นเหตุการณ์ก็เข้าช่วยประคอง
พอดีมีเสียงเรียกชื่อนามสกุลของนิจนันท์ มุกดารู้สึกคุ้นๆ
ครั้นสอบถามก็รู้ว่าเป็นภรรยาของชนินทร (เอ พศิน)
เพชร
(โฬม พัชฏะ) ได้รับคำยืนยันจากสารวัตรธีรพัฒน์ (เบียร์ ศิววัชร์) ว่าแผ่นซีดีรักษาความปลอดภัยไม่ได้รั่วไหลไปโดยคนในบริษัทเขา
แต่เป็นฝีมือแฮ็กเกอร์ของเนสคนร้ายที่ตาย
เพชรอยากขอโทษเพื่อนที่เขาพูดแรงเกินไปจึงนัด เจนจบ(เจสัน ยัง) พาที ( โพลาร์ อิศวร์) และชนินทร(เอ พศิน) มาสังสรรค์ปาร์ตี้ที่ริมสระน้ำบ้านของเขา
มรกต (ฮันนี่ ภัสสร ) โทรศัพท์ชวนประไพกับมุกดา (ซูซี่ สุษิรา)ให้มาสนุกด้วย ในขณะที่สาลินี
(หนิง ปณิตา) ก็มากับพาที ชนินทรยังโกรธมุกดาไม่พูดกับเธอแม้เธอจะทักก่อน
และเมื่อเห็นสาลินีซบไหล่ออดอ้อนพาที มุกดาก็ซบไหล่อ้อนเพชรบ้าง
ประไพนั่งคุยกับมรกตและเผ่าพงศ์อยู่ในบ้านมองผ่านกระจกไปที่สระน้ำเห็นภาพนั้นก็ตกใจ
มุกดา
(ซูซี่ สุษิรา) ไปสำรวจบริษัทคู่แข่งของเพชร (โฬม พัชฏะ) คือเอสเคไดมอนด์
ที่มีสงครามกับศักดาลูกชายเพลย์บอยเป็นเจ้าของ เพราะสงสัยว่าเป็นผู้บงการแก๊งโจร
ทางด้านของรุจา (วิกกี้ สุนิสา) เองก็กลายเป็นคู่กัดของคมกฤช (ต๊ะ วริษฐ์) มาตลอด
และเมื่อรุจาสนิทสนมกับแอนดี้ ( เฟอร์นันโด พาร์เรลลา )
คมกฤชก็เกิดความหึงหวงคอยขวาง ทั้งสองเกิดมีใจกันอย่างไม่รู้ตัว
ความจริงเปิดเผยออกมา ผู้บงการแก๊งโจรก็คือเจนจบ
(เจสัน ยัง) นั่นเอง แต่เจนจบทำอย่างแนบเนียนมากและปัดให้ชนินทร (เอ พศิน) ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะชนินทรทุจริตขโมยเพชรในเซฟของบริษัทเอาไปจริง เพื่อเอาบำเรอความสุขกับนิจนันท์
(มะปราง วิรากานต์ ) เมียรักของเขาซึ่งในอดีตเคยรักชอบเพชร(โฬม
พัชฏะ)มาก่อนชนินทรถูกจับได้ว่าเป็นขโมยจึงรับสารภาพว่าขโมยเพชรไปจริงแต่ไม่รู้เรื่องอะดอเรลลา แต่ทุกคนก็ยังไม่ปักใจเชื่อโดยเฉพาะเจนจบคอยป้ายความผิดให้ชนินทรอยู่เสมอ ทั้งๆ
ที่อะดอเรลลาของจริงอยู่ที่เจนจบ ส่วนสร้อยที่เพชรได้คืนเป็นอะดอเรลลาปลอม ซึ่งเพชรก็ยังไม่รู้
คิดว่าของเขาเป็นของจริงอยู่เหมือนเดิม มุกดา(ซูซี่
สุษิรา)ยังต้องสืบสวนต่อไปว่าเพชรเป็นคนร้ายหรือไม่ส่วนเจนจบก็หาทางที่จะขายอะดอเรลลาของจริงให้สงคราม
( สุเชาว์ พงษ์วิไล ) กับศักดา (แดนนี่ ดานิเอล ) โดยให้ภูพาเป็นคนติดต่อ แต่ก็ยังติดต่อซื้อขายกันไม่สำเร็จ ภูพายังไม่ได้เงินค่าจ้างปล้น ลูกน้องในแก๊งก็ไม่พอใจทวงถามด้วยความระแวงจึงเกิดการหักหลังกันขึ้นในแก๊งโจร
เพชร(โฬม
พัชฏะ)สบายใจที่ได้อะดอเรลลาคืนมามรกต (ฮันนี่ ภัสสร )
จึงให้พาครอบครัวไปพักผ่อนโดยชวนประไพกับมุกดา(ซูซี่
สุษิรา)ไปด้วยเพื่อความหวังให้เพชรกับมุกดาเกิดความรักขึ้น เพชรได้พบกับ ปานตา (ดวงธาริดา อัทธเสรี) คนรักเก่าที่หนีงานแต่งไปเป็นชาวประมงธรรมดา เพชรได้รู้ความจริงว่าปานตาหนีงานแต่งกับเขาไปจนเป็นเหตุให้เขาไม่รักใครเลยนั้น เพราะเธอหนีความอายที่ถูกคนร้ายข่มขืน เพชรกับมุกดาเข้าใจปานตาแล้ว ทำให้ความรักความเข้าใจของเพชรกับมุกดาแน่นแฟ้นขึ้น แต่มุกดาก็ยังไม่ลืมหน้าที่ถ้าเพชรทำผิดเธอก็ต้องจับกุมเขา
เจนจบ(เจสัน ยัง) ฆ่าชนินทร(เอ พศิน) หวังปิดปาก และลวงนิจนันท์ (มะปราง
วิรากานต์ ) ไปหวังจะฆ่าปิดปากอีกคนหนึ่ง แต่เธอต่อสู้จึงถูกเจนจบทำร้ายกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มุกดา (ซูซี่ สุษิรา)
กับแอนดี้ ( เฟอร์นันโด พาร์เรลลา ) สืบความเข้าใกล้ตัวเจนจบทุกขณะ แก๊งภูผาระแวงกันเองเพราะไม่ได้เงินค่าจ้างจากเจนจบสักที เจนจบจะฆ่าขุนพลที่มาทวงเงิน ภูผาเกรงว่าตนเองจะเป็นรายต่อไปจึงเอาความจริงมาบอกเพชร
(โฬม พัชฏะ) ว่าคนบงการคือเจนจบ ทุกอย่างที่เจนจบทำเพราะหลงรักเพชร แต่กลัวเพชรรังเกียจเกย์อย่างเขา
ส่วนมุกดา(ซูซี่
สุษิรา)ปิดคดีอะดอเรลลาได้ก็ยอมรับรักกับเพชรเพราะเขาเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว แต่ก่อนแต่งงานเจนจบ
ก็วางแผนจับตัวมุกดาไปกักขังและทรมาน เพชรไปช่วยก็ถูกทรมานปางตายอีกคนหนึ่ง แต่ภูผามาล้างแค้นเจนจบและช่วยมุกดากับเพชรได้สำเร็จ แล้วทั้งสองก็จัดงานแต่งกันพร้อม
ๆ กับคู่ของรุจา (วิกกี้ สุนิสา) กับคมกฤช (ต๊ะ วริษฐ์) ซึ่งสัญญาว่าจะรักและดูแลกันตลอดไป
ข้อคิดที่ได้จากละครเรื่องมุกเหลี่ยมเพชร
จากละครมุกเหลี่ยมเพชรเราจะเห็นว่าละครเรื่องนี้
เป็นละครแนวบู๊ผสมโรแมนติกซึ่งในละครเราจะเห็นว่าความรักในละครเรื่องนี้มีหลากหลายมุมมองซึ่งความรักแต่ละแบบล้วนส่งผลให้ชีวิตในอนาคต
อย่างตัวละครที่แสดงว่าเป็นชายรักชายและต้องการให้อีกฝ่ายตอบรับความรักนั้น
โดยยอมทำทุกอย่างไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ว่าความรักแบบไหนถ้าเรารักให้เป็น
ความรักนั้นก็จะเป็นสิ่งสวยงามต่อชีวิตจิตใจของเราอยู่ดี
แต่ถ้าเรามองความรักนั้นผิดไปสุดท้ายแล้วเราก็จะไม่ได้รับความรักหรือแม้แต่สิ่งอื่นใดเหลือไว้ให้เราเห็นอีกเลย
ละครไทยแทบจะทุกเรื่องต้องมีสถานพยาบาลมาเกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็น
พระเอกเอาตัวบังวิถีกระสุน
ที่ตัวร้ายยิงใส่นางเอก->ส่งโรงพยาบาล
นางเอกป่วย,ตัวร้ายแกล้งป่วยเรียกร้องความสนใจ->ส่งโรงพยาบาล
และบทดราม่าอื่นๆอีกมากมายที่มีสถานพยาบาลมาเกี่ยวข้อง
ถ้าใครติดละครเรื่องมุกเหลี่ยมเพชรคงจะจำได้ว่ามีหลายฉากที่ถ่ายทำในโรงพยาบาล โรงพยาบาลที่ว่าคือ
โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ โรงพยาบาลที่ไว้ใช้ฝึกสอนนักศึกษาแพทย์ มศว
นั้นเอง หมอแบงค์ก็ได้รับการฝึกสอนจากโรงพยาบาลนี้เช่นกัน
ฉากที่เอามาถ่ายทำคือฉากที่หนูมุก(นางเอก)ได้ใช้ยากระตุ้นเพื่อฟื้นชีวิตชนินทรขึ้นมาจากการเป็นเจ้าชายนิทรา
เพื่อจะมาถามว่าใครที่เป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังแผนขโมยเพชรอะดอเรลลา
แต่ชนินทรท่าน่าส่งสารยังไม่ทันได้พูดความจริงก็ถูกเจนจบตัวร้ายของเรื่องฆ่าปิดปากเสียก่อน
โดยโยนลงมาจากยอดตึก T_T ในตอนนี้ยังมีพยาบาลถูกทำร้ายอีกสองคน
คนหนึ่งถูกยิงที่แขน อีกคนหนึ่งถูกกระหน่ำแทงข้างหลัง โหดจริงๆครับ เจนจบ
เจนจบหน้าซาดิสมาก
เจนจบปลอมเป็นหมอแล้วฆ่าพยาบาลสาวอย่างโหดเหี้ยม
ชนินทรกับวาระสุดท้ายของชีวิต
เรื่องโดย ~หมูสนาม~