พี่หมอเตือนภัย!!! ผู้บริโภค
สิ่งหนึ่งที่พี่หมอเกลียดมากที่สุดคือคนที่เอาเปรียบ เห็นแก่ตัว และไม่มีความรับผิดชอบ วันนี้พี่หมอขอเอาเรื่องความเลวของร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ร้านหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของร้านนี้อีก(พี่หมอโดนคนเดียวก็เกินพอแล้ว)
เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่Notebook Asusของหมอแบงค์ถูกใช้งานมาเป็นระยะเวลาถึง 5 ปี ตัวแปลงไฟ(Adaptor)ก็ถึงอายุขัยของมัน โดนตรงขั้วชาร์ตมันแตกออกมาทำให้ชาร์ตไฟเข้าสู่ Notebook ไม่ได้ จริงๆชาร์ตได้แต่ต้องเอามือจับที่ขั้วให้แน่นตลอด แบบนี้ทำไงดีล่ะครับ ไม่ไหวนะหมอแบงค์ต้องใช้คอมพิวเตอร์ทำงานPresent ส่งอาจารย์ด้วยสิ แบบนี้คงต้องซื้อใหม่เสียแล้วไม่มีทางเลือก
ซึ่งร้านที่หมอแบงค์ไปซื้อชื่อว่า “ร้านBest price IT” ตั้งอยู่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 5 จุดสังเกตคือร้านอยู่ตรงข้ามกับ IT CITY พอดี
พนักงานขาย : อ้อทางร้านไม่มีของ Asus นะค่ะมีแต่ของเทียบของ Toshiba แต่ใช้แทนกันได้ สนใจไหมค่ะ
หมอแบงค์ : เอาครับใช้แทนกันได้แน่นะครับ คนละยี่ห้อกันแถมตัวแปลงไฟทำไม output มันน้อยกว่าเล็กน้อยด้วย(ตัวAdaptorของAsus output 4.74 แต่ของเทียบมันเขียน output 4.3[4.74??])
พนักงานขาย : ใช้ได้แน่นอนค่ะ รับรองไม่เคยมีปัญหา
หมอแบงค์ : โอเคครับ ถ้าไม่ได้ผมเอามาเปลี่ยนนะ
พนักงานขาย : จะรับแบบไหนดีค่ะ มีสองราคา ราคา 500 บาท(ไม่รับประกัน) ราคา 700 บาท(ราคานี้มีประกันกับทางร้านค่ะ)
หมอแบงค์ : เอาแบบราคา 500 บาทครับ
หลังจากเอากลับไป วันรุ่งขึ้นหมอแบงค์ถึงได้ลองเสียบ Adaptor กับ Notebook ดู ปรากฏว่าไฟไม่เข้าครับพี่น้อง แถมหม้อแปลงร้อนมากทั้งๆที่เสียบไปไม่ถึงนาที อ้าวทำไมเป็นแบบนี้ หมอแบงค์จึงจำเป็นต้องกลับไปที่ร้านBest price ITอีกครั้ง แต่เนื่องด้วยหมอแบงค์ต้องเข้าเวรที่โรงพยาบาลจึงต้องฝากเพื่อนสนิทหมอแบงค์ ชื่อ อ๊อฟ ไปทำภาระกิจนี้แทน
คราวนี้หมอแบงค์ให้เพื่อนแบกโน๊ตบุ๊คไปลองที่ร้านด้วยเลย ปรากฏว่าเมื่อไปถึง
อ๊อฟ : ตัวแปลงไฟที่เพื่อนผมซื้อไปเมื่อวานมีปัญหาชาร์ตไฟไม่เข้าทั้งๆที่คุณยืนยันว่าใช้ด้วยกันได้
พนักงานขาย : สินค้าทุกชิ้นของทางร้านไม่มีปัญหา และทางร้านลองให้ลูกค้าก่อนขายทุกครั้ง อีกทั้งที่คุณลูกค้าซื้อไปเป็นราคาแบบไม่รับประกันทางร้านไม่รับเปลี่ยน
[ลองก่อนทุกครั้งพูดมาได้ยังไงวะ ตรูยังไม่ได้เอาคอมมาลองเลยตอนเอามาซื้อเมื่อวาน เอาแต่Adaptor มาเป็นตัวอย่าง]
อ๊อฟ : พูดแบบนี้ได้ยังไง มันใช้ไม่ได้จริงๆ ไม่เชื่อลองเสียบดูสิไฟไม่เข้าเลย
หลังจากต่อล้อต่อเถียงอยู่นาน ทางร้านคงกลัวว่าเสียงจะไปรบกวนลูกค้าท่านอื่น จึงยอมทดลองเสียบAdaptorให้ดู ปรากฏว่าคราวนี้นอกจากไฟจะไม่เข้าแล้ว หม้อแปลงนั้นระเบิดออกมาเลย รวมทั้งยังมีควันและกลิ่นไหม้ออกมา.....ด้วย ทางร้านจึงยอมเปลี่ยนAdaptorให้ใหม่ Adaptorตัวใหม่ที่ทางร้านหยิบมาให้มีขนาดใหญ่กว่าตัวก่อน output 3.4 เท่ากับของแท้Asusที่เอามาเป็นตัวอย่างที่สำคัญชาร์ตไฟเข้าแล้ว เอ๋...ทำไมไม่เอาตัวนี้มาให้แต่แรกวะ
แต่ปรากฎว่าทางร้านมีเงื่อนไขคือต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 100 บาท ถึงจะยอมเปลี่ยนให้ อ๊อฟเพื่อนหมอแบงค์ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอีกจึงยอมจ่ายเงินจำนวนนั้นไป แล้วกลับมาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้หมอแบงค์ฟัง
เมื่อหมอแบงค์ได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด หมอแบงค์ถึงกลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและโทรกลับไปที่ร้านทันที
พนักงานขาย : สวัสดีค่ะร้านBest price ITค่ะ
หมอแบงค์ : สวัสดีครับผมโทรมาขอบคุณที่เปลี่ยนAdaptorให้ผมใหม่
พนักงานขาย : อ้อค่ะ เป็นหน้าที่ของทางร้านอยู่แล้ว
หมอแบงค์ : [พูดมาได้นะ หน้าด้านที่สุดครับ] ผมมีเรื่องหนึ่งต้องการบอก
เรื่องแรกคือ คุณพูดอย่างนี้ไม่ถูก คุณบอกว่าคุณลองสินค้าทุกชิ้นก่อนขายให้ลูกค้า เมื่อวานผมยังไม่ได้เอา Notebook มาลองเลยคุณพูดออกมาแบบนี้ได้อย่างไร
เรื่องที่สอง คุณไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้าจะขายสินค้าอย่างเดียว เอาตัวที่Output ไม่ตรงมาขายและบอกว่าใช้ด้วยกันได้ บอกว่ามีปัญหายินดีรับผิดชอบพอเอามาเปลี่ยนก็บ่ายเบี่ยงตลอด
เรื่องที่สาม นอกจากเอาสินค้าที่ไม่ตรงกันมาขายแล้ว สินค้าร้านคุณยังไม่มีคุณภาพ มีที่ไหนเสียบปุ้ป...ระเบิดปั้บแบบนี้
พนักงานขาย : เอ่อทางร้านเรายุ่งมากต้องวางสายแล้วค่ะ เอ่อก่อนวางสายทางร้านมีข้อแนะนำสำหรับคุณลูกค้า ทางร้านแนะนำว่าคุณลูกค้าควรเปลี่ยน windowเสียใหม่ตอนนี้ Vista มาล้าสมัยแล้วลองเปลี่ยนเป็น xp กับ window seven ดูเผื่อ Performance ของโน๊ตบุ้คจะดีขึ้น
หมอแบงค์ : ผมจะเปลี่ยน window เหรอไม่เปลี่ยนมันก็เรื่องของผม คุณอย่ามานอกประเด็น ประเด็นคือทางร้านBest price ITของคุณ ไม่ซื้อสัตย์และขาดความรับผิดชอบต่อลูกค้า ถ้าคุณไม่ขอโทษผมจะเอาเรื่องของคุณไปกระจายต่อในสังคมออนไลน์เลยคอยดู
พนักงานขาย : อยากจะไปโพสโพทนาที่ไหนก็ไปเลย ทางร้านช่วยขนาดนี้แล้วยังไม่มีสำนึก
ปังงง เธอวางกระแทกหูโทรศัพท์ไป [อ้าว ตรูเป็นคนผิดเหรอวะ]
สามวันให้หลัง…
พี่หมอได้มีโอกาสกลับไปที่
The mall งามวงศ์วานอีกครั้ง
พี่หมอจึงได้ถือโอกาสนี้ไปถ่ายรูปร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์best price ITที่ขาดความรับผิดชอบและไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า
ขณะถ่ายรูปอยู่พนักงานในร้านก็เห็นและจำหมอแบงค์ได้ทันที
และได้เดินมากระชากมือถือจากมือหมอแบงค์
พนักงานร้าน : ถ่ายอะไรเอามาดูเดี๋ยวนี้
หมอแบงค์ : ก็ถ่ายรูปทั่วๆไป มีปัญหาอะไรครับ
และคุณมีสิทธิ์อะไรมากระชากมือถือผมไปดูนี่เข่าข่ายกรรโชกทรัพย์นะ
อยากให้ผมแจ้งความเหรอ
หลังจากพูดไปดังนั้น
หมอแบงค์ถึงได้มือถือคืนมา ท่านผู้อ่านคงเห็นได้ถึงพฤติกรรมความเลวร้ายของพนักงานร้านนี้
หมอแบงค์ยิ่งรู้สึกสมเพศและไม่เสียใจเลยที่จะเอาเรื่องราวของร้านนี้มาตีแผ่ในสังคมออน์ไลน์
ดีกว่าให้มีคนดีๆไปตกเป็นเหยื่อของร้านนี้อีก
ถึงแม้เรื่องนี้จะดูเป็นเรื่องๆเล็กๆเงินเพียงไม่กี่ร้อย หมอแบงค์นั้นไม่ได้เสียดายเงินบาท แค่นี้จริงๆแค่แวบเดียวหมอแบงค์ก็หามาได้ หมอแบงค์เพียงแต่เสียความรู้สึกที่ทางร้านไม่มีความซื่อสัตย์และขาดความรับผิดชอบและเอารัดเอาเปรียบต่อผู้บริโภค บางทีเงินห้าร้อยบาทอาจมีค่ามากมายสำหรับบางคน หมอแบงค์เพียงเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงนี้มาเล่าสู่กันฟัง ใครอ่านแล้วรบกวนแชร์เรื่องราวนี้ต่อๆกันเพื่อไม่ให้มีคนอื่นตกเป็นเหยื่อแบบหมอแบงค์อีกครับ
คำเตือน
บทความนี้ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์แล้วหากผู้ใดคัดลอกโดยไม่อ้างอิงที่มา จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ทางปัญญา
ใครที่เคยเจอประสบการณ์เลวร้ายเกี่ยวกับร้านนี้ลองมาแชร์กันได้นะครับ เพื่อให้คนอื่นไม่ตกเป็นเหยื่ออีก
ตอบลบตายแล้วไปซื้อ printer ร้านนี้มาหมือนกันค่ะจำได้ว่าตอนซื้อเหมือนจะจำได้ว่า เค้าบอกประกันทางร้านเอง 1 ปี เพราะเป็นเครืองที่มาต่อแทงค์เพิ่ม ใช้มาประมาณ 6 เดือน อยู่ๆก็ไฟไม่เข้าดับไปเลย ยกไปเค้าบอกว่า mainboard น่าจะเสียเพราะมดเอาเข้าไป แล้วชื้น แต่เรื่องนี้อยู่นอกรับประกัน เสีย 700 อีก3วันโทรบอก แต่ตอนนี้ 6 วันแล้วยังเงียบอยู่ โทรติดต่อไปตามเบอร์โทรฯทางร้านก็ไม่มีคนรับ โทรมา 3 วันแล้ว โทรทุกวันเลย เห้ออออ แย่จริงๆ น่าจะอ่านโพสนี้เจอก่อนซื้อ ไม่น่าเล้ย
ตอบลบครับร้านนี้เขาแย่จริงๆ หลอกลวงลูกค้า
ตอบลบน่าจะมาอ่านก่อนนะ >_< จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
ไม่เป็นไรคราวหลังเจอร้านนี้อีกก็ขอbye ดีกว่าครับ ฝากเตือนคนอื่นๆด้วยนะ
กดแชร์เรื่องนี้ก็ดีนะครับ