วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

นี่เหรอ..คืนวันสิ้นปี------>(เศร้าเหลือเกินT_T)

         
        
         ช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่คงเป็นช่วงเวลาที่หลายๆคนเฝ้ารอคอยให้มาถึง....
          ช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่หลายๆคนได้เฉลิมฉลองสนุกสนานกับเพื่อนฝูงและญาติมิตร..
          ช่วงเวลาที่ทุกคนได้ร่วมกันนับถอยหลัง เตรียมพร้อมเข้าสู่สักราชใหม่
 9

8

7

6

5

4

3

2

1

Happy New Year ขอความสุขจงมีแด่ท่านทุกคน....

ช่วงเวลานี้ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า...

ถึงกระนั้นช่วงเวลาปีใหม่ก็อาจเป็นช่วงเวลาที่ทุกข์และโศกเศร้าที่สุดด้วย...


ดังเช่นคืนวันสิ้นปี 2008 นี้เอง...

              หมอแบงค์(สมัยเป็นนิสิตแพทย์)ตื่นนอนแต่เช้าตรู่...มองดูแสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่สาดส่องทะลุเข้ามาในห้องนอน และยิ้มอย่างเป็นสุขที่วันดีๆวันหนึ่งได้เข้ามาถึง วันนี้นิสิตแพทย์แบงค์มีแผนงานที่สำคัญตระเตรียมไว้ในหัวเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้จะทำอะไร แผนที่ว่าคือไปเยี่ยมอวยพรอาจารย์หมอที่โรงพยาบาลเลิดสิน เนื่องด้วยวาระดิถี...วันขึ้นปีใหม่

               แต่วันนี้...หาใช่วันดีอย่างที่นิสิตแพทย์แบงค์คิดไว้ไม่... ... ขณะที่นิสิตแพทย์แบงค์กำลังขับรถเดินทางไปใกล้ถึงที่หมายคือ "โรงพยาบาลเลิดสิน" เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา...กรี้ง...กริ้ง....กริ้ง 

             "ฮัลโหล มีอะไรเหรอปิ้น...โทรมาหากูแต่เช้าเชียว"  นิสิตแพทย์แพทย์แบงค์พูดขึ้นหลังรับโทรศัพท์
(ขออภัยที่บทสนทนานี้ ใช้คำไม่สุภาพ เนื่องจากมันเป็นภาษาเวลาพูดกับเพื่อนนะครับ)

            "โห้รับแล้ว...โล่งอกไปที นึกว่าเป็นอะไรไปซะอีก" นิสิตแพทย์ปิ้นถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

             "ทำไมเหรอ??  นึกว่ากูเป็นอะไรไป" นิสิตแพทย์แบงค์ถามด้วยความสงสัย

            "อ้าว เมิงไม่รู้เรื่องเมื่อคืนเหรอ..."

           "หา!! เมื่อคืนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"  นิสิตแพทย์แบงค์เริ่มรู้สึกตกใจ

          "มีสิ..รุนแรงซะด้วยก็ ผับหรูที่เมิงไปCount down เมื่อปีก่อนเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ขึ้น กูก็เป็นห่วงนึกว่าปีนี้เมิงจะไปcount down  ที่นั้นอีก"  นิสิตแพทย์ปิ้นเอ่ยขึ้น

         "ผับซานติกา ที่เอกมัยน่ะนะที่เกิดไฟไหม้ มีใครเป็นอะไรเหรอเปล่า"นิสิตแพทย์แบงค์ถามด้วยความเป็นห่วง

         "มีสิ..แถมเยอะซะด้วย มีทั้งเจ็บทั้งตายเลย เห็นว่ามีตายกัน 59 คน บาดเจ็บอีกร่วมร้อยนะ"  

         หลังได้ยินนิสิตแพทย์ปิ้นพูดจบ...นิสิตแพทย์แบงค์รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาในทันทีเพราะ ซานติกาผับอันนี้เองที่เมื่อคืนนิสิตแพทย์แบงค์คิดจะไปฉลอง count down กับเพื่อนๆเหมือนกับช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาที่ไปฉลองที่นั้น 2 ปีติดกันมาแล้ว นิสิตแพทย์คงเป็นคนหนึ่งที่อยู่ที่นั้นแล้ว ถ้าหากว่า...เพื่อนก้งนั้นไม่เปลี่ยน Plan ไปเที่ยวอำเภอปลาย ที่ จ.แม่ฮ่องสอนซะก่อน

       นิสิตแพทย์แบงค์นึกได้ว่าวันนี้มีภาระกิจสำคัญ จึงพยายามปัดความคิดเรื่องร้ายๆออกไปก่อน และมุ่งคิดถึงเรื่องไปอวยพรอาจารย์หมอที่ รพ.เลิดสินเป็นอันดับแรก แต่เมื่อไปถึงห้องพักอาจารย์ปรากฏว่าห้องมันล๊อค

        "อาจารย์ไปไหนนะ' นิสิตแพทย์คิดในใจ จากนั้นจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาอาจารย์เพื่อถามว่าตอนนี้อาจารย์อยู่ที่ไหน

        "อ้อแบงค์...อาจารย์อยู่ที่ ICU ศัลยกรรมรีบมาหาที่นี่เลย" นี่คือคำตอบที่นิสิตแพทย์แบงค์ได้รับ นิสิตแพทย์แบงค์จึงมุ่งหน้าไปที่ ICU ศัลยกรรมของ รพ.เลิดสินทันที เมื่อไปถึงก็พบว่าอาจารย์กำลังดูแลเคสคนไข้คนหนึ่งอยู่...

       "มาแล้วเหรอแบงค์...ดูคนไข้คนนี้สิ แผลBurn(แผลถูกไฟไหม้) เกรด 3 ไปกว่า 70% ของร่างกายเลย คนนี้ถูกส่งมาจากซานติกาผับเมื่อคืน"อาจารย์พูดขณะดูแลคนไข้ที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยผิวหนังแดงๆซึ่งปกคลุมไปด้วยน้ำเหลืองใสๆที่ซึมเยื่อมออกมาตลอดเวลา ร่วมกับผิวหนังบางส่วนก็หลุดลอกออกมาเนื่องด้วยสาเหตุมาจากความร้อนที่สูงมาก คนไข้คนนี้ถูกไฟเผาทั้งเป็นจากเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิงชื่อดังเมื่อคืน... นิสิตแพทย์แบงค์ขนลุกซู่เป็นครั้งที่สอง เมื่อได้ยินอาจารย์อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
      หลังจากได้คุยกันพักใหญ่ถึงเรื่องนี้อาจารย์ก็ได้เปิด Internet ให้นิสิตแพทย์แบงค์ดู




วันนี้(1 ม.ค.)เมื่อเวลา 00.20 น. ร.ต.ท.สุทิน พงศ์คำพรรณ ร้อยเวร สน.ทองหล่อรับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงซานติก้าผับ ตั้งอยู่เลขที่ 235/11ซอยเอกมัย 9 - 11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 และประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย พร้อมรถดับเพลิงขนาดใหญ่ประมาณ 10 คัน หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

       ที่เกิดเหตุภายในผับดังกล่าวเป็นอาคารเดี่ยวในพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตรปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ยกระดับ 3 ชั้น เป็นชั้น 1 ชั้น 2 และชั้นใต้ดิน ภายในอาคารเกิดเพลิงโหมลุกไหม้อย่างหนักและสะเก็ดไฟยังตกลงมาสู่พื้นอย่างรวดเร็วทำให้นักเที่ยวถูกไฟลวกตามร่างกายจำนวนมาก นักเที่ยวที่อยู่ด้านในประมาณ 1,000 คน ต่างวิ่งหนีตายกันออกมาด้านนอกอย่างอลหม่าน แต่ยังมีบางส่วนไม่สามารถหนีเปลวเพลิงออกมาได้ ถูกไฟคลอกและขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่พยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างหนัก ประกอบกับอาคารที่ถูกความร้อนอย่างหนักจนเกิดการทรุดตัว ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น จนผู้ที่ติดอยู่ด้านในที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ถูกไฟคลอกตายอยู่ด้านหน้าทางออก เป็นที่น่าอนาถอย่างมาก อีกทั้งแม้ประตูทางออกมีถึง 5 ประตูแต่เนื่องจากนักเที่ยวบางส่วนไม่ทราบและพยายามแย่งกันออกทางประตูด้านหน้าจึงทำให้เหยียบกันตายอยู่ด้านหน้าประตูทางออกอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บที่หนีตายออกมาได้ก่อนซึ่งส่วนใหญ่จะถูกไฟลวกตามร่างการถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงอีกจำนวนมาก

       ส่วนด้านใน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เนื่องจากอาคารดังกล่าวถูกความร้อนอย่างหนักจนเพดานเกิดการทรุดตัว เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อระบายควันและบายความร้อน ก่อนรอจนแน่ใจว่าอาคารจะไม่ทรุดตัวลงมาจึงเข้าดำเนินการตรวจสอบด้านใน และลำเลียงผู้เสียชีวิต ออกมาได้ทั้งสิ้น 53 ศพ และตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่อาจตกค้างอยู่ภายใน ซึ่งการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากเนื่องจากเกรงว่าอาคารจะทรุดตัวลงมาอีก

       จากการสอบสวน นายสมชาย เฟรนดี้ อายุ 28 ปี นักเที่ยวที่มาฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ซานติก้าผับ กล่าวว่า ตนมาเที่ยวที่ซานติก้า ผับ ก่อนเกิดเหตุทางร้านมีการจัดพลุเอฟเฟค ไว้ที่บริเวณด้านหน้าเวทีเพื่อจุดฉลองหลังจากที่มีการเคาท์ดาวน์แล้ว โดยเมื่อเคาท์ดาวน์เสร็จทางร้านได้จุดพลุดังกล่าว แต่พลุเกิดระเบิดรุนแรงกว่าจนลุกลามไปติดยังฝ้าเพดานที่หุ้มด้วยฟองน้ำเก็บเสียงซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับจังหวะนั้นมีเสียงตะโกนว่าไฟไหม้ ผู้ที่มาเที่ยวจึงเกิดการแตกฮือพยายามยื้อแย่งกันออกมาภายนอก อีกทั้งนักเที่ยวที่อยู่บนชั้น 2 นั้น จะไม่มีทางออกต้องวิ่งแย่งกันลงมาด้านล่างเพื่อออกทางประตูทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

       ด้าน พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหาย และระบุตัวผู้กระทำผิดได้ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้ที่เสียชีวิตเบื้องต้นได้รับรายงานว่า เกิดจากไฟคลอก สำลักควันและเหยียบกันเองขณะที่แย่งกันออกจากที่เกิดเหตุ ซึ่งส่วนนี้ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนกระจายออกไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และสอบปากคำพยานแวดล้อม หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะเรียกตัวมาแจ้งข้อหา และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นประสานให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และมีการตั้งศูนย์รับแจ้งผู้สูญหายเพื่อประสานในการตรวจสอบผู้เสียชีวิต รวมถึงทรัพย์สิน โดยผู้ใดที่จะตรวจสอบว่าเพื่อน หรือญาติพี่น้อง อยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่สามารถแจ้งได้ที่ สน.ทองหล่อ

       ต่อมาทราบว่ามีผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลเสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย ซึ่งรวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 59 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 212 คน


ทีมาภาพและเรื่อง: ทีมข่าวอาชญากรรม www.manager.co.th และ เดลินิวส์


    
               "น่าเสียดาย...อนาคตของชาติทั้งนั้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่... แบงค์จำเอาไว้นะชีวิตคนเราเกิดมามีครั้งเดียว จะทำอะไรต้องคิดถึงคนที่คอยเป็นห่วงอยู่ข้างหลังซึ่งก็คือคุณพ่อและคุณแม่เสมอ ไม่มีใครหรอกที่จะรักเราและรู้สึกเสียใจมากที่สุด เมื่อถึงวันที่เราไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วเท่ากับท่าน อย่าปล่อยใจ...ไปกับความสุขความคึกคะนองเพียงชั่วครู่... สำหรับหมอนะวันปีใหม่ไม่ใช่วันที่ควรเฉลิมฉลองอะไรมากมาย วันปีใหม่นี่สิเป็นวันที่หมอต้องเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมรับมือกับเหตุร้ายที่มักอุบัติขึ้นในวันเทศกาลนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเหตุร้ายมักเกิดคู่กับงานเทศกาลแห่งความสุขเสมอ ไม่ว่าจะวันปีใหม่ วันสงกรานต์ หรือทุกๆวันหยุดเหมือนเทวทูตสั่งให้มันเกิดขึ้นมา...ซะทุกคราไป" นี่คือคำพูดสุดท้ายที่อาจารย์มอบให้หมอแบงค์ก่อนจะกล่าวคำลา...แยกย้ายกัน

    จุดเเรกคือ...พบ
จุดจบคือ...จาก
เมื่อพบต้อง...พราก
เมื่อจากต้อง...เจอ
ความสุข-ความทุกข์เป็นของคู่กัน
สรรพสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
ชิวิตคนเราก็ไม่แน่นอน... 

ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและญาติด้วยครับ....

พี่หมอ

คำเตือน
บทความนี้ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์แล้วหากผู้ใดคัดลอกโดยไม่อ้างอิงที่มา จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ทางปัญญา