พูดถึงอาจารย์ใหญ่....น้องๆ หลายคนคงนึกถึงหนังเรื่องนี้
ศพที่อยู่ในถุงผ้าที่อับชื่น พร้อมที่จะลุกขึ้นมาในยามค่ำคืน บรื้อๆ
แบบนี้คงน่ากลัวพิลึก เหอๆ จะบอกว่าจริงๆแล้วน้องๆกำลังเข้าใจผิด อาจารย์ใหญ่ที่พี่กำลังพูดถึงท่านไม่ได้น่ากลัวแบบนั้นเลย
ขอให้น้องๆปรับความเข้าใจใหม่แล้วกันเดี๋ยวพี่แบงค์จะเล่าให้ฟังเองว่าอาจารย์ใหญ่จริงๆแล้วนั้นเป็นอย่างไร
ก่อนจะพูดถึงอาจารย์ใหญ่ น้องๆควรจะรู้ก่อนว่าจะเจอท่านในรายวิชาใดของการเรียนแพทยศาสตร์บัณฑิต วิชานั้นได้แก่ วิชา GROSS ANATOMY หรือ วิชากายวิภาคศาสตร์นั้นเอง
กายวิภาคศาสตร์ เป็นวิชาพื้นฐานของการเรียนแพทย์ตลอดชีวิตแพทย์ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องใช้ความรู้ทางกายวิภาคศาสตร์บ้างไม่มากก็น้อย เช่น เพื่อการตรวจร่างกายผู้ป่วยหรือการรักษาอื่นๆเมื่อคิดถึงคำว่ากายวิภาคศาสตร์ คนส่วนใหญ่อาจนึกถึงแต่การเรียนรู้จากร่างกายมนุษย์การผ่าศพ หรือที่นักศึกษาแพทย์เรียกว่า “อาจารย์ใหญ่” แต่ที่จริงแล้วกายวิภาคศาสตร์ยังรวมไปถึงการเรียนในระดับเซลล์ซึ่งต้องอาศัยกล้องจุลทรรศน์ทั้งแบบธรรมดาและจุลทรรศน์อิเลคตรอนผู้ที่ได้รับปริญญาเอกทางกายวิภาคศาสตร์บางท่านยังศึกษาลงลึกไปถึงระดับโมเลกุลนอกจากนี้วิชาพันธุศาสตร์ก็เคยเป็นสาขาหนึ่งของกายวิภาคศาสตร์
ส่วนคำว่า"อาจารย์ใหญ่”เป็นคำที่นักศึกษาแพทย์ใช้เรียกครูผู้ไร้วิญญาณที่ได้สละร่างกายเพื่อการศึกษาและการค้นคว้าวิจัยทางกายวิภาคศาสตร์สาเหตุที่ต้องใช้“อาจารย์ใหญ่”ซึ่งเป็นร่างกายคนจริงๆก็เพราะว่าไม่มีมนุษย์คนใดหรือประเทศไหนสามารถสร้างหุ่นจำลองร่างกายมนุษย์ได้เสมือนจริงได้เท่าท่านอาจารย์ใหญ่ และไม่มีวันที่จะมีเทคโนโลยีใดๆมาทดแทนได้ ท่านทำให้นักศึกษาแพทย์ไม่ต้องจินตนาการจากภาพเสมือนจริง ได้ชำแหละเห็นและจดจำสามารถจับต้องได้ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเสมอ ไม่มีวันผิดพลาด พูดสั้นๆว่าเป็นการเรียนรู้จริงจากการปฏิบัติและประสบการณ์จริง
“อาจารย์ใหญ่” มีคุณูปการต่อวงการแพทย์มานานและได้รับความเคารพและการยกย่องจากนักศึกษาแพทย์
เนื่องจากผู้เป็นเจ้าของร่างกายทุกท่านได้แสดงเจตจำนงไว้เมื่อยังมีชีวิตที่จะอุทิศร่างไว้ให้นักศึกษาแพทย์เรียนซึ่งถือเป็นกุศลเจตนาที่แสนบริสุทธิ์
แสดงถึงสัจธรรมอย่างหนึ่งว่าแม้มนุษย์จะเลือกเกิดไม่ได้ แต่สามารถเลือกที่จะทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแพทย์ที่จะได้นำความรู้ไปสร้างประโยชน์แก่มวลมนุษย์อีกมากมาย
กรรมวิธีที่ทำให้สามารถเรียนจาก“อาจารย์ใหญ่”ได้เป็นเวลานานทั้งปีไม่เน่าเสีย
คือการฉีดน้ำยาคงสภาพ อันประกอบด้วย ฟอร์มาลีน ฟีนอล
และน้ำส่วนว่าสถานศึกษาใดจะใช้ปริมาณเท่าใดนั้นไม่เป็นที่ทราบชัดน้ำยาผสมจะถูกฉีดเข้าสู่หลอดเลือดต้นขาของ“อาจารย์ใหญ่” จนมากและทั่วถึงน้ำยาสูตรที่ใช้ฉีด “อาจารย์ใหญ่” ให้นักศึกษาแพทย์เรียนนั้นมีข้อดีคือสามารถคงสภาพได้นานเป็นปีไม่มีการเน่าเสีย
แต่ข้อเสียคือ ข้อต่อต่างๆจะแข็ง ไม่สามารถงอได้เหมือนคนปกติเมื่อศัลยแพทย์เฉพาะทางเรื่องกระดูกและข้อต่อจะทำการฝึกผ่าตัดจาก
“อาจารย์ใหญ่” จึงไม่สามารถใช้น้ำยาสูตรนี้ได้เนื่องจากการผ่าตัดบางครั้งต้องอาศัยการงอข้อต่อขณะผ่าตัด
เมื่อถึงสิ้นสุดปีการศึกษาแต่ละปี
คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
จะเป็นเจ้าภาพในการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ “อาจารย์ใหญ่”
ทุกท่านที่ได้นำขึ้นเรียนแล้วในปีนั้นๆ โดยมีนิสิต
แพทย์ มศว และ นิสิตทันตแพทย์ มศว พร้อมด้วยคณาจารย์กายวิภาคศาสตร์
และเหล่าญาติมิตรของ “อาจารย์ใหญ่”
ร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงนี้อย่างคับคั่ง
เพื่อไว้อาลัยท่านเป็นครั้งสุดท้าย
ด้วยจิตใจที่สำนึกในพระคุณของท่านที่มีต่อวงการแพทย์ และประชาชนผู้เจ็บป่วย
เปลวไฟในเตาเผากำลังลุกโชติช่วงแลบลามเลียโลงศพสีขาว ไปรอบด้านประตูเตาเผาค่อยๆ เลื่อนลงมาปิด หลังจากที่ดอกไม้จันทน์ดอกสุดท้ายถูกใส่เข้าไป ด้วยประสิทธิภาพชั้นเยี่ยมของเตาเผา ซากร่างของอาจารย์ใหญ่ ก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง สิ้นสุดหน้าที่ แห่งการเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ยังประโยชน์แก่การศึกษา ของนักศึกษาแพทย์แต่เพียงเท่านี้
แต่สิ่งซึ่งไม่สูญหายไปคือ ความทรงจำ อย่างน้อยที่สุดก็คือ ความทรงจำของนักศึกษาแพทย์ผู้เป็นลูกศิษย์ ที่จะจดจำไปตลอดชีวิตว่า การที่พวกเขามีความรู้ในระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ได้นั้น เป็นเพราะความยินดีในการอุทิศร่างกายของบุคคลท่านหนึ่ง ซึ่งได้มอบร่างไร้ลมหายใจของท่านมาเป็นอาจารย์ใหญ่ ซึ่งนับเป็นอุปกรณ์การศึกษาชิ้นสำคัญที่จะทำให้พวกเขา ก้าวไปสู่ความเป็นแพทย์ที่สมบูรณ์ต่อไปในอนาคต
ศิษย์น้อมนบกราบกราน ธ อาจารย์ผู้กรุณา
อุทิศพลีกายา ให้ศึกษาเวชการ
ก่อเกิดซึ่งวิชชา เร้าปัญญาให้แตกฉาน
เสริมสร้างความเชี่ยวชาญ อภิบาลมวลประชา
ท่านมิได้อาลัย ในกายหยาบที่ลับลา
บริจาคซึ่งอัตตา ด้วยเมตตาและอารี
ยอมเว้นฌาปนา เพื่อให้ข้าฯได้สิกขา
ยอมทุกข์ทรมา เพื่อประชาพ้นโรคภัย
"หนึ่งมีดที่ศิษย์ผ่า อาจารย์เจ็บแทบขาดใจ
แต่ฝืนว่ายังไหว ไม่เป็นไรครูจะทน
ร้อยแผล ณ ร่างครู จะสร้างสูเป็นยอดคน
รักษาทั่วทุกหน บ่เกี่ยงชนหรือชั้นใด
พันมีดที่ศิษย์ผ่า จะนำพาความสดใส
สู่มวลประชาไทย พ้นโรคร้ายถ้วนหน้ากัน"
ศิษย์กราบขอขมา ที่หาญอาจกล้าล่วงเกิน
คะนองคึกเพลิดเพลิน ไม่ดำเนินตามครรลอง
อันบุญท่านบำเพ็ญ เพื่อเป็นทานข้าฯทั้งผอง
สู่สรวงที่ใฝ่ปอง ของเทพไท้ผู้เจริญ
แม้กายกลายเป็นดิน ก็ไม่สิ้นคนสรรเสริญ
กุศลกรรมดำเนิน ให้เพลิดเพลินนานเท่านาน
พระคุณท่านเหลือนับ ศิษย์ซาบซึ้งอัประมาณ
กราบเบื้องบทมาลย์ ด้วยกตเวทิตา
แม้ท่านนิราศไกล แต่ดวงใจยังใฝ่หา
ขออาจารย์โปรดนิทรา ด้วยสุขานิรันดร์เทอญ
อุทิศพลีกายา ให้ศึกษาเวชการ
ก่อเกิดซึ่งวิชชา เร้าปัญญาให้แตกฉาน
เสริมสร้างความเชี่ยวชาญ อภิบาลมวลประชา
ท่านมิได้อาลัย ในกายหยาบที่ลับลา
บริจาคซึ่งอัตตา ด้วยเมตตาและอารี
ยอมเว้นฌาปนา เพื่อให้ข้าฯได้สิกขา
ยอมทุกข์ทรมา เพื่อประชาพ้นโรคภัย
"หนึ่งมีดที่ศิษย์ผ่า อาจารย์เจ็บแทบขาดใจ
แต่ฝืนว่ายังไหว ไม่เป็นไรครูจะทน
ร้อยแผล ณ ร่างครู จะสร้างสูเป็นยอดคน
รักษาทั่วทุกหน บ่เกี่ยงชนหรือชั้นใด
พันมีดที่ศิษย์ผ่า จะนำพาความสดใส
สู่มวลประชาไทย พ้นโรคร้ายถ้วนหน้ากัน"
ศิษย์กราบขอขมา ที่หาญอาจกล้าล่วงเกิน
คะนองคึกเพลิดเพลิน ไม่ดำเนินตามครรลอง
อันบุญท่านบำเพ็ญ เพื่อเป็นทานข้าฯทั้งผอง
สู่สรวงที่ใฝ่ปอง ของเทพไท้ผู้เจริญ
แม้กายกลายเป็นดิน ก็ไม่สิ้นคนสรรเสริญ
กุศลกรรมดำเนิน ให้เพลิดเพลินนานเท่านาน
พระคุณท่านเหลือนับ ศิษย์ซาบซึ้งอัประมาณ
กราบเบื้องบทมาลย์ ด้วยกตเวทิตา
แม้ท่านนิราศไกล แต่ดวงใจยังใฝ่หา
ขออาจารย์โปรดนิทรา ด้วยสุขานิรันดร์เทอญ
ด้วยความรักและเคารพเป็นอย่างสูง
ศิษย์
ในปัจจุบันจะเห็นว่าผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาแพทย์นั้น ยังสร้างคุณูปการต่อแพทย์เฉพาะทางได้อีกหลายสาขา ศึกษาวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลการรักษาดี แผลเล็ก ผู้ป่วยกลับบ้านได้เร็ว ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้เจ็บป่วยโดยตรง เรียกว่าเป็นการต่อยอดความรู้ ความสามารถ จึงอาจกล่าวได้ว่าการเรียนรู้จาก “อาจารย์ใหญ่” นั้น ไม่สิ้นสุด และไม่มีเทคโนโลยีใดๆ เลยที่จะมาทดแทนความรู้ที่ได้จาก “อาจารย์ใหญ่” ได้
กุศลเจตนาของผู้ที่อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา
คงทำให้ท่านเหล่านั้นประสบสุขทางใจทั้งขณะที่ยังไม่เสียชีวิต และเมื่อเป็น “อาจารย์ใหญ่”
สมดังเจตนา เพื่อสร้างแพทย์ให้มีความรู้ ความสามารถ
เพื่อรักษาผู้เจ็บไข้ต่อไปในอนาคต
บริจาคร่างกาย
การอุทิศร่างกายเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ศึกษาอวัยวะต่างๆ ของร่างกายหรือที่รู้จักในนามของอาจารย์ใหญ่ผู้บริจาคต้องเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติและมีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์หลังจากเสียชีวิตต้องแจ้งให้ทางศูนย์รับร่างกายภายใน 24 ชม.
การอุทิศร่างกายเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ศึกษาอวัยวะต่างๆ ของร่างกายหรือที่รู้จักในนามของอาจารย์ใหญ่ผู้บริจาคต้องเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติและมีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์หลังจากเสียชีวิตต้องแจ้งให้ทางศูนย์รับร่างกายภายใน 24 ชม.
สถานที่บริจาคร่างกาย
โรงเรียนแพทย์แต่ละแห่ง
ต้องมีการเตรียมการ เกี่ยวกับการเรียนการสอน วิชากายวิภาคศาสตร์ให้พร้อม
เริ่มต้นตั้งแต่การรับบริจาคร่างกาย การเตรียมสถานที่เก็บรักษาศพ
มีเจ้าหน้าที่ฉีดยาและรับศพ หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง
คือภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ของโรงเรียนแพทย์นั้นๆ และสถานที่รับบริจาคร่างกาย
ของโรงเรียนแพทย์แต่ละแห่ง จะมีดังรายชื่อต่อไปนี้
คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ : ภาควิชากายวิภาคศาสตร์
สุขุมวิท 23 กรุงเทพฯ 10110 โทร. 260-1532, 260-2234-5 ต่อ 4501
ทางคณะแพทยศาสตร์ มศว จริงๆแล้วจำนวนอาจารย์ใหญ่ไม่เพียงพอต่อจำนวนนิสิตแพทย์ จึงต้องขอแบ่งปันเพื่อการเรียนรู้จากที่อื่นๆ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่ นี้ด้วยครับ
ทางคณะแพทยศาสตร์ มศว จริงๆแล้วจำนวนอาจารย์ใหญ่ไม่เพียงพอต่อจำนวนนิสิตแพทย์ จึงต้องขอแบ่งปันเพื่อการเรียนรู้จากที่อื่นๆ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่ นี้ด้วยครับ
โรงพยาบาลศิริราช : ภาควิชากายศาสตร์
ตึกกายวิภาคศาสตร์ ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทร.
419-7035, 411-2007
หรือ 411-0241-9 ต่อ 7035
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
: แผนกเลขา ตึกอำนวยการชั้นล้าง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โทร.
256-4628
โรงพยาบาลรามาธิบดี
: ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 254-5198 หรือ 246-1358-74 ต่อ 4101,
4102
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า : ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า อาคารเรียนวพม. ชั้น 4 315 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 246-0066 ต่อ 93606
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า : ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า อาคารเรียนวพม. ชั้น 4 315 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 246-0066 ต่อ 93606
สำหรับต่างจังหวัด
สามารถบริจาคได้ ที่โรงเรียนแพทย์ในภูมิภาค
ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับเรื่องอาจารย์ใหญ่...ครูผู้ยิ่งใหญ่ หวังว่าน้องๆ คงเข้าใจพวกท่าน มากขึ้นนะครับ ไว้มีเรื่องดีๆหมอแบงค์จะมาเล่าสู่กันฟังต่อนะ ไปก่อนละครับผม
ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับเรื่องอาจารย์ใหญ่...ครูผู้ยิ่งใหญ่ หวังว่าน้องๆ คงเข้าใจพวกท่าน มากขึ้นนะครับ ไว้มีเรื่องดีๆหมอแบงค์จะมาเล่าสู่กันฟังต่อนะ ไปก่อนละครับผม
เรื่องโดย ~หมูสนาม~
คำเตือน
บทความนี้ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์แล้วหากผู้ใดคัด ลอกโดยไม่อ้างอิงที่มา จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ทางปัญญา